ถ้าเราได้ลองสังเกตุสิ่งต่างต่างรอบตัวอยู่เสมอมันก็จะช่วยทำให้เราเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้นและเมื่อเราเข้าใจสิ่งเหล่านั้นแล้วเราก็อาจจะสามารถรู้ว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นก็เป็นได้ อย่างเช่นที่บางคนมองเห็นท้องฟ้าหรืออากาศก็สามารถบอกได้ว่าฝนกำลังจะมาทำนองนั้นนั้นแหละ ซึ่งสิ่งนี้ก็สามารถเอามาปรับใช้กับเรื่องของเราหรือคนใกล้ตัวได้อีกด้วย เพราะหลายหลายครั้งเราจะเห็นได้ว่าพวกเราหลายหลายคนก็จะทำอะไรในรูปแบบเดิมๆซ้ำๆ และเจ้ารูปแบบเหล่านั้นนี้เองที่มีเพื่อนของเพราได้ลองเก็บข้อมูลเรื่องราวและพบว่ามันทำให้เราสามารถรู้หรือคาดการณ์บางอย่างล่วงหน้าได้ จากการกระทำเหล่านั้นนั้นเอง
ซึ่งวันนี้พวกเรา BTW ก็ได้เอาเรื่องราวบางอย่างที่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับเหล่าเพื่อนเพื่อนที่มีแฟนกันแล้วให้ลองมาอ่านกันดูสักหน่อยว่าคู่ของเพื่อนเพื่อนนั้นได้เคยแสดงท่าทางหรือแสดงอาการบางอย่างเหล่านี้หรือเปล่า เพราะหากเพื่อนของคุณเริ่มมีท่าทีแบบนี้แล้วละก็นั้นก็อาจจะหมายความว่าเค้าหรือเธอคนนั้นอาจจะกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ก็ได้
เรื่องแรกเลยนั้นก็คือการใช้เวลาร่วมกัน
ฟังดูเหมือนไม่มีอะไรแต่เราอยากจะบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สามารถบอกถึงความสำคัญที่เรามีให้กันและกันนั้นเอง เพราะเพื่อนเพื่อนลองคิดดูสิว่า ในช่วงแรกที่คุณเริ่มจะจีบกันใหม่ๆนั้นไม่ว่าจะเป็นวันหยุดหรือวันธรรมดาต่างฝ่ายต่างก็มักจะหาช่วงเวลาที่สามารถมาพบเจอกันให้ได้ หรืออย่างน้อยหากไม่ได้เจอกันก็จะโทรหากันบ่อยๆ นั้นเองดังนั้นการใช้เวลาร่วมกันจึงเป็นสิ่งที่บอกเราได้อย่างดีว่าเค้าหรือเธอคนนั้นยังให้ความสำคัญกับเรามากขนาดไหน และยิ่งคุณเสนอกิจกรรมหรือชวนไปทำสิ่งต่าง ๆ อยู่ฝ่ายเดียวแล้วละก็คงต้องเริ่มหันมาคิดแล้วละว่าที่คุณทำไปนั้นมันอาจจะเป็นแค่ทำอยู่ฝ่ายเดียวก็เป็นได้นะดังนั้นลองถ่อยออกมาสักก้าวแล้วให้เวลากับตัวเองให้ได้คิดมากขึ้นเจอคนอื่นๆมากขึ้นจะดีกว่านะ
คนที่ใช่จะทำให้คุณอยู่ด้วยแล้วสบายใจและเหนือสิ่งอื่นใดเค้าจะไม่พยายามเปลี่ยนคุณ
เป็นเรื่องปกติที่เวลาเราอยู่กับใครมันก็ต้องมีทั้งเรื่องที่ถูกใจและเรื่องที่ไม่ถูกใจกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งแน่นอนว่ามันก็ต้องมีการปรับตัวหรือแก้ไขเรื่องราวเหล่านั้น แต่หากว่าเรื่องที่ต้องถูกแก้ไขมันกลายเป็นเรื่องของคุณอยู่ฝ่ายเดียวและอีกฝ่ายแทบจะสั่งการหรือเป็นคนกำหนดวิธีการอยู่ฝ่ายเดียว มันก็คงจะไม่ใช่แล้วละนั้นก็เพราะว่าการที่เราจะอยู่กับใครนั้นมันก็ต้องปรับตัวเข้าหากันทั้งสองฝ่าย เพราะบางเรื่องมันก็สามารถแก้ได้แต่บางเรื่องมันก็ต้องยอมรับให้ได้เหมือนกันนั้นแหละมันถึงจะเรียกว่าการอยู่ร่วมกัน และแน่นอนว่าการที่เราอยู่กับคนที่เข้าใจเรามันย่อมมีความสุขมากกว่าอยู่แล้ว
ถ้าการพูดคุยของพวกคุณในระยะหลังมักจะทำให้อีกฝ่ายบึ้งตึงนั้นคงไม่ดีแน่
เรื่องของความคิดเห็นนั้นเป็นเรื่องที่เราไปชี้ให้แต่ละคนคิดแบบนั้นแบบนี้ไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่บางครั้งคุณและแฟนของคุณอาจจะคุยกันในบางเรื่องแล้วเกิดการบึ้งตึงเพราะอีกฝ่ายไม่ได้คิดอย่างที่ตนเองคิด แต่ถ้ากับเรื่องราวธรรมดาทั่วไปอย่างการหาร้านอาหารหรือแค่การกำหนดตารางในวันหยุดก็ยังกลายเป็นเรื่องกันขึ้นมาได้ นั้นก็คงไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับแฟนกันแล้ว ซึ่งนั้นอาจจะเป็นเพราะสิ่งที่พวกเค้ากำลังเผชิญอยู่นั้นมาสร้างความกังวลจนทำให้ทุกอย่างรอบตัวเหมือนจะกลายเป็นเรื่องไม่สบอารมณ์ไปซะทั้งหมด ดังนั้นหากคุณลองสักเกตุแฟนของคุณเพิ่มขึ้นสักหน่อยและคุยเปิดใจและช่วยกันแก้ไขมันก็น่าจะทำให้เรื่องทั้งหลายดีขึ้น แต่หากว่าคุณได้ลองแล้วและมันไม่ได้มีสาเหตุมาจากเรื่องอื่นๆ แล้วละก็คุณก็คงต้องคิดแล้วละว่าจะเอายังไงกับเรื่องนี้ดีเพราะการที่ต้องเจอกับเรื่องราวแบบนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องสนุกอย่างแน่นอน
เมื่อความสัมพันธ์ของคุณดูไม่ก้าวหน้าไปไหนเลยคงต้องถึงเวลาคุยกันอย่างจริงจัง
© UPHE
การที่เราจะลองคบหาใครสักคนเพื่อที่จะอยู่ร่วมกันในตอนนี้และต่อไปในอนาคตนั้น มันต้องมีหลายหลายอย่างประกอบกันไปเพราะอันที่จริงแล้วพวกเราก็ต้องสร้างสิ่งที่เรียกว่าฐานะและความเป็นอยู่ที่ทำให้เราทั้งสองฝ่ายอยู่กันได้อย่างสบายมากขึ้นนั้นเอง ดังนั้นหากการที่คู่ของคุณหรืออาจจะเป็นที่ตัวของคุณเองก็ได้ไม่ได้มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปเลยในทางที่ดีขึ้นเป็นเวลานานแล้วละก็ เราอยากให้พวกคุณเริ่มหันมาคุยกันอย่างจริงจังถึงเรื่องของอนาคตของคุณทั้งคู่บ้างเพราะยิ่งนานวันหากคุณปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆนั้นมันก็จะยิ่งทำให้โอกาสที่มีเข้ามาหาคุณนั้นน้อยลงไปเรื่อยๆ อีกทั้งกำลังที่จะสร้างสรค์หรือไข้วคว้าเอาสิ่งต่าง ๆ มันก็จะลดลงเรื่อยๆดังนั้นการที่เราได้คุยและวางแผนอย่างจริงจังตั้งแต่ตอนที่มีโอกาสมันจึงเป็นสิ่งที่ควรรีบทำนั้นเอง
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside — เรียบเรียงโดย BTW