แน่นอนว่าจินตนาการนั้นคือสิ่งที่ทำให้เราสามารถมีสิ่งของหรืออะไรหลายหลหลายอย่างอย่างที่เห็นทุกวันนี้ ซึ่งพวกเราคงต้องย้อนกลับไปเหล่าบรรดานักคิด อย่างที่เคยได้ยินว่าในยุคโบราณนั้นผลงานของโซเครติส และ ชัยชนะของอเล็กซานเดอร์ ยิ่งใหญ่ขนาดไหน หรือในช่วงยุคกลางเริ่มต้นการบันทึกสิ่งต่าง ๆ ด้วยหมึกและมียการพิพม์หนังสือทำให้การส่งต่อความรู้ทำได้ดีขึ้น มีการออกสำรวจพื้นที่ทางทะเล และ ทำแผนที่โลกซึ่งถ้าเราอยู่ในช่วงเวลาที่เริ่มสิ่งใหม่เราทุกคนน่าจะมีความรู้สึกเดียวกันคือ สิ่งใหม่เหล่านี้มันสุดยอดมาก นั่นทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ว่าคนในอนาคตจะจดจำช่วงเวลาที่ทันสมัยในยุคนี้ซึ่งเป็นศตวรรษที่ 21 ว่าอย่างไร

แน่นอนพวกเราไม่สามารถรับประกันได้ว่าข้อเท็จจริงเหล่านี้ทั้งหมดจะถูกรวมอยู่ในหนังสือประวัติศาสตร์ใหม่ แต่พวกมันก็มีโอกาสมากที่จะถูกจดจำเอาไว้

1. การพัฒนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในโรงภาพยนตร์

ซ้าย ภาพยนตร์ ขวา ภาพจริงของนักแสดง
© Alita: Battle Angel / 20th Century Fox

ทุกวันนี้มีการผลิตภาพยนตร์โดยที่ไม่ใช้เทคนิคพิเศษอื่นๆมีอยู่น้อยมาก หนึ่งในตัวอย่างล่าสุดของเรื่องนี้ที่สามารถเห็นได้ในตัวละครหลักของ Alita: Battle Angel ดวงตาของหุ่นยนต์สาวดูใหญ่ผิดธรรมชาติราวกับว่าเธอเป็นตัวการ์ตูน เพื่อให้ภาพออกมาได้อย่างใจของผู้้กำกับแล้ว ใบหน้าของนักแสดงหญิง Rosa Salazar จึงถูกถ่ายทำด้วยเทคโนโลยีพิเศษและดวงตาของเธอก็ใหญ่ขึ้นด้วยการใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์

นอกจากนี้ในศตวรรษที่ 21 แม้ว่าคุณจะไม่มีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้แล้วก็ไม่สามารถห้ามไม่ให้คุณแสดงภาพยนตร์ หรือ ออกคอนเสิร์ตได้ เพราะเทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยให้นักร้องยอดนิยมสามารถปรากฏตัวต่อหน้าแฟนๆ ของพวกเขาเป็นแบบโฮโลแกรม ตัวอย่างเช่นการแสดงคอนเสิร์ตของ Michael Jackson ซึ่งเขาจากไปในปี 2009 และ 5 ปีต่อมาก็มีภาพโฮโลแกรมของเค้าขึ้น “ร้องเพลง” ในการแสดงที่ลาสเวกัส

2. ทำงานที่ไหนก็ได้ และ เปิดสอนหนังสือหรือบทเรียนต่าง ๆ ด้วยการทำ VDO เพียงครั้งเดียว

© free-images © free-images
ศตวรรษที่ 21 เป็นยุคทองสำหรับฟรีแลนซ์และสำหรับผู้คนที่ไม่ชอบการทำงานประจำ ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีหลายคนชอบทำงานจากที่บ้าน หรือ อาจจะร้านกาแฟน่ารัก ๆ สักที หรือการเขียนบล็อกก็นับเป็นธุรกิจในปัจจุบัน
แม้แต่อาจารย์มหาวิทยาลัยก็สามารถบรรยายออนไลน์ให้กับนักเรียนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในเมืองอื่นๆ แต่สำหรับ The Imperial College London ก้าวล้ำไปไกลกว่าสิ่งนี้อีก พวกเขาจะได้รับการสอนที่สอนโดยอาจารย์โฮโลแกรมสามมิติ

3. โฮโลแกรมเป็นงานศิลปะชนิดหนึ่ง

© Culture / youtube
มีการมช้สื่อดิจิตอลในทางการสร้างสรรค์งานศิลปะมากขึ้น ตัวอย่างเช่นในภาพนี้ นักเต้นบัลเล่ต์โฮโลแกรมปรากฏบนเวทีและเราสามารถดูการเต้นบัลเล่ต์แบบดิจิตอลของพวกเขาในงานแสดงได้ที่พิพิธภัณฑ์

แม้แต่งานประมูลก็ใช้โฮโลแกรม เพื่อแสดงวัตถุชิ้นเดียวกันให้กับผู้คนจากลอนดอนและจากฮ่องกง ในเวลาเดียวกัน โดยที่แต่ละคนไม่จำเป็นต้องเดินทางมาเองอีกต่อไป และผลการประมูลครั้งนั้น ผู้เข้าร่วมจากฮ่องกงคือคนที่ได้ซื้องานศิลปะชิ้นนั้น โดยมองจากวัตถุที่เป็นโฮโลแกรมเท่านั้น

4. จุดเริ่มต้นของยุคคอมพิวเตอร์พกพาสู่แท็บเล็ต

© tabletpctalk © free-images
ในปี 2002 Bill Gates นำเสนอแท็บเล็ตพีซีต้นแบบที่มีการจดจำเสียงและใช้หน้าจอสัมผัส นี่เป็นความพยายามของ Microsoft ในการปรับคอมพิวเตอร์ให้เหมาะกับความต้องการในชีวิตประจำวันของผู้คนที่คุ้นเคยกับการจดบันทึกระหว่างการประชุมและการสื่อสารทางอีเมล์ จนตอนนี้การใช้หน้าจอ จดหรือวาดรูปกลายเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ทำได้ง่าย ๆ ไปแล้ว

5. การแปลงองค์ความรู้ที่สะสมในช่วงประวัติศาสตร์ของมนุษย์ที่ผ่านมาไปเป็นข้อมูลดิจิตอล

© pixabay © pixabay

เวลาที่เราต้องรอแถวรับหนังสือจากห้องสมุดนั้นหมดไปนานแล้ว เพราะตอนนี้มีหนังสือ ภาพวาด และผลงานทางวิทยาศาสตร์อยู่น้อยมากที่ยังไม่ได้เปลี่ยนเป็นดิจิตอล ทุกคนสามารถเข้าถึงพวกมันได้ทันทีเมื่อใดก็ได้

ในปี 2008 เว็บไซต์ Еuropeana เริ่มให้บริการครั้งแรก โดยมีภาพวาดดิจิตอล ไฟล์บันทึกเสียงบันทึกภาพถ่าย ภาพยนตร์ แผนที่ หนังสือและต้นฉบับทั้งหมดจากพิพิธภัณฑ์ยุโรป ห้องสมุด และหอจดหมายเหตุหลายพันแห่ง ทำให้เรามีโอกาสอ่านหนังสือจากหอสมุดแห่งชาติอังกฤษขณะกำลังนอนอยู่บนโซฟาและสามารถดู Mona Lisa ได้โดยไม่ต้องไปที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์

6. Virtual reality (VR) และ Augmented reality (AR)

© pixabay © pixabay
ชุดหูฟังเสมือนจริงสามารถพาเราไปสู่มิติที่แตกต่างในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ตัวอย่างเช่น เราสามารถเดินทางเข้าไปในวิดีโอเกมโดยเดินไปรอบๆ และโต้ตอบกับตัวละครได้
และนี่ไม่ใช่วิธีเดียวที่จะใช้เทคโนโลยี VR เป็นเวลากว่า 15 ปีแล้วที่ VR-simulators ถูกนำมาใช้อย่างจริงจังในการฟื้นฟูสมรรถภาพของเด็ก เครื่อง AR นี้จะใช้สำหรับเด็กที่มีสมองไม่ปกติและความผิดปกติของระบบประสาทอื่นๆ สิ่งนี้ช่วยให้พวกเขาเรียนรู้การกระทำบางอย่างและช่วยให้พวกเขาหยุดกลัวความล้มเหลวในโลกแห่งความจริง

(Virtual reality (VR) คือ การจำลองภาพให้เสมือนจริง แบบ 360 องศา
Augmented reality (AR) คือ การนำเทคโนโลยีมาผสานระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงและความเสมือนจริงเข้าด้วยกัน)

7. เดินทางสู่อวกาศ

© NASA Voyager / twitter
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2018 ยานอวกาศ Voyager-2 ของนาซ่าเดินทางไปยังดวงดาวที่อยู่นอกขอบสุริยะจักวาล มันถูกปล่อยตัวในฤดูร้อนปี 1977 และปัจจุบันอยู่ห่างจากโลกประมาณ 18 พันล้านกิโลเมตร ภารกิจของมันคือการศึกษาพรมแดนด้านนอกของระบบสุริยะ ส่วนยานอวกาศ Voyager-1 ได้เข้าสู่ห้วงอวกาศในปีก่อน นักวิทยาศาสตร์คิดว่าพวกเขาจะสามารถรักษาการเชื่อมต่อกับยานอวกาศได้จนถึงปี 2027
สำหรับข่าวน่าเศร้าในเดือนสิงหาคม 2006 มีดาวเคราะห์ดวงหนึ่งหลุดออกไปจากระบบสุริยะ นักวิทยาศาสตร์ตัดสินใจว่าดาวพลูโตไม่ใช่ดวงดาวด้วยข้อมูลว่ามวลของมันมีขนาดเล็ก จึงไม่อาจถือว่าเป็นดาวเคราะห์ได้

8. จากความไม่พอใจในตนเองไปสู่ความคิดเชิงบวกต่อร่างกาย

© pixabay © pixabay

นักจิตวิทยากล่าวว่าการ สื่อต่างๆ ที่เผยแพร่ภาพของดารานักแสดง ทำให้ผู้หญิงพยายามที่จะมีร่างกายที่สมบูรณ์แบบ เหมือนดารานักแสดงเหล่านั้น  เรื่องราวที่น่ากลัวเกี่ยวกับโรคอ้วน และภาพถ่ายของนางแบบหุ่นเพรียวบางในเสื้อผ้าอินเทรนด์ ผลที่ตามมาคือการแข่งขันที่ไม่มีวันสิ้นสุดเพื่อที่จะผอมกลายเป็นสิ่งที่หลายๆ คนคิดและพยายามทำ แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีอีกแนวคืดหนึ่งเกิดขึ้น เพราะดาราหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงหลาย ๆ คนไม่ได้มีรูปร่างผอมบางอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เรามีแนวคิดใหม่เกิดขึ้น คือ การมองและคิดถึงตัวเองในแง่บวก ผู้หญิงไม่ต้องอายกับรูปร่างของเธอที่ไ่ม่เหมือนคนอื่น ๆ อีกต่อไปเพราะ ความสามารถและความคิดเป็นสิ่งที่เราให้คุณค่ามากขึ้น ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่คุณจะเห็นคนที่รูปร่างหน้าตาธรรมดา จะกลายมาเป็นที่ชื่นชมของคนในสังคมเราเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

9. โซเชียลมีเดียแทนที่การสื่อสารที่แท้จริง ในปี 2004 Mark Zuckerberg นักเรียนชาวอเมริกันได้สร้าง Facebook กับเพื่อนร่วมห้องและที่ต่อจากนั้น มันคือจุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์ ตอนนี้บนโซเชียลมีเดียสามารถบอกทุกคนเกี่ยวกับตัวคุณ หาเพื่อนใหม่ อ่านข่าว หาเงิน โพสต์โฆษณา เก็บเงินและทำสิ่งต่างๆ ที่หลากหลาย วันนี้มีผู้ใช้นับล้านคนบนโซเชียลมีเดียจากทั่วโลก นักวิทยาศาสตร์ยังกังวลว่าพวกเราหลายคนลืมความสำคัญของการสื่อสารในชีวิตจริง เพราะเราใช้เวลากับสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์มากขึ้นกว่าที่เคยมีมา

10. การปรากฏตัวของเทคโนโลยีจากภาพยนตร์ไซไฟ

© Star Wars: Episode II – Attack of the Clones / Lucasfilm Ltd. © Microsoft Research / youtube
ย้อนกลับไปเพียง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา คนอื่นๆ จะคิดว่าคุณมีความคิดแปลกๆ ถ้าคุณบอกพวกเขาว่าคุณสามารถโทรหาพวกเขาได้จากทุกที่ทุกเวลา แต่วันนี้มันเป็นเรื่องธรรมดามาก เราใช้เวลาไม่นานในการเรียนรู้การใช้สมาร์ทโฟนและวิดีโอแชท และในไม่ช้าเราจะสามารถพูดคุยกับการฉายภาพเสมือนจริง (เช่นเดียวกับใน Star Wars)

11. การปรากฏตัวของเอกสารไบโอเมตริกซ์
© pixabay
เอกสารกระดาษธรรมดาจะค่อยๆ กลายเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้คุณสามารถมี หนังสือเดินทางระหว่างประเทศอิเล็กทรอนิกส์ (biometric international passport) ที่มีไมโครชิปอยู่ในนั้น มันช่วยให้เราสามารถค้นหาตัวตนของบุคคลได้ภายในเวลาไม่กี่วินาที จึงทำให้เวลาที่เราใช้ในสนามบินสั้นลง และอีกหน่อยเราอาจจะมีการยืนยันตัวตน ด้วยการแสกนดวงตา หรือ แค่เดินผ่านก็เป็นไปได้

12. สถาปัตยกรรมที่แตกต่าง

© Dubai Future Foundation © thetowerinfo
ซ้าย สำนักพิมพ์ ขวา ตึกระฟ้า

ผู้บุกเบิกในด้านสถาปัตยกรรมที่แปลกตาของศตวรรษที่ 21 คือสถาปนิกที่ทำงานในดูไบ ในปี 2010 พวกเขาสร้างอาคารที่สูงที่สุดในโลก Burj Khalifa (828 เมตร) และตอนนี้พวกเขากำลังมีแผนก่อสร้างสิ่งที่สูงกว่านั้นอีก นั่นคือ Dubai Creek Tower  และเราจะเห็นความท้าทายในการสร้างตึกที่ สูง ที่สวย หรือ สร้างในทีที่เราคิดไม่ถึงอย่างใต้ทะเล ออกมาเรื่อยๆ

สร้างเซลล์เพื่อทดแทนอวัยวะภายนอกบางส่วนได้


© sciencedirect
พวกเขาสร้างแบบจำลอง 3 มิติในห้องแล็บแล้วสร้างเซลล์กระดูกอ่อนจากหูที่ผิดรูป ใช้เวลาประมาณ 3 เดือนในการทำให้เซลล์เติบโตขึ้นด้วยวิธีพิเศษก่อนที่จะปลูกฝังให้กับผู้ป่วย

14. ทิศทางใหม่ของศิลปะ

© Nicole Dextras
นักวิจัยอ้างว่าศิลปะในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 สะท้อนภาพของสังคมได้ดีกว่า หนึ่งในตัวอย่างที่เด่นชัดที่สุดของเรื่องนี้สามารถเห็นได้ในผลงานของศิลปิน Nicole Dextras ที่ตัดสินใจจัดงานแสดงเพื่อสิ่งแวดล้อม การแสดงผลงานศิลปะในฤดูหนาวของเธอทำด้วยตัวอักษรน้ำแข็งและพวกมันก็อยู่ได้ไม่นานนัก พวกมันสิ้นสุดลงเมื่อฤดูใบไม้ผลิมาถึง นี่คือวิธีการของNicole ที่ใช้เตือนเราเกี่ยวกับความเปราะบางของธรรมชาติ

น่าสังเกตว่าผู้คนในอนาคตจะต้องตกตะลึงกับราคาชิ้นงานศิลปะ และพวกเขาอาจนึกย้อนไปถึงปี 2013 เมื่อผลงานของศิลปินชาวอังกฤษ Francis Bacon ที่ชื่อว่า “Three Studies of Lucian Freud” ถูกขายทอดตลาดในราคา 142.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (4460 ล้านบาท) และกลายเป็นงานศิลปะที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์

15. ค่านิยมครอบครัวใหม่

© pixabay © pixabay
ผู้หญิงสมัยใหมมักจะแต่งงานและมีลูกหลังจากอายุ 30 ปี และไม่กลัวที่จะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมีข้อเท็จจริงอื่นใดเกี่ยวกับยุคปัจจุบันที่สมควรได้รับในตำราเรียนแห่งอนาคต? บอกเราในเพจของเรา!ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก brightside เรียบเรียงโดย BTW