เค้าเหล่านี้อาจจะเป็นต้นกำเนิดเหล่าผู้มีพลังพิเศษในอนาคตก็เป็นได้
เพื่อนเพื่อนที่ชอบดูหนังฮีโร่ก็น่าจะได้ชมเรื่องราวของเหล่าบรรดา เอ็กซ์เมน หรือ x-เม็น กันมาบ้างแล้วแต่เราก็ขอบอกเพื่อนที่ไม่รู้จักสักหน่อยว่าพวกเค้านั้นเป็นทีมซูเปอร์ฮีโรในหนังสือการ์ตูนอเมริกัน ที่แต่งโดย สแตน ลี วาดภาพและแก้ไขโดยแจ็ค เคอร์บี้ ฮีโรกลุ่มนี้ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือดิ เอ็กซ์เม็น ประกอบไปด้วยเรื่องราวของซุปเปอร์ฮีโร่มนุษย์กลายพันธุ์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506เป็นต้นมา จุดสำคัญที่ทำให้เอ็กซ์เมนแตกต่างจากการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่อื่นๆ นั่นก็คือเรื่องของการต่อต้านมนุษย์กลายพันธุ์ โดยตัวละครมนุษย์กลายพันธุ์ในเรื่องต้องถูกต่อต้านจากกลุ่มมนุษย์ปกติว่าเป็นภัยต่อมนุษย์และจะทำให้สายเลือดของมนุษย์ต้องแปดเปื้อน
ซึ่งพวกเขาเป็นฮีโร่ที่เกิดมามีลักษณะเฉพาะที่ทำให้พวกเขาโดดเด่น และพลังที่แตกต่างจากฝูงชน และไม่ว่าคุณจะเคยเห็นตัวจริงของพวกเขาหรือไม่ เราขอบอกเลยว่าในชีวิตจริงก็คุณก็อาจเดินอยู่ท่ามกลางพวกเค้าเหล่านี้ทุกวันอยู่แล้วเพียงแต่ไม่ได้สังเกตุเห็น บางครั้งด้วยลักษณบางอย่างที่เกิดขึ้นเฉพาะตัวนั้นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของพลังพิเศษต่าง ๆ ในอนาคตอันใกล้นี้ก็ได้...
17 สิ่งแปลกๆ ที่ยากที่จะคาดเดา ว่าที่จริงแล้วมันใช้ทำอะไร
เมื่อคุณตัดสินใจที่จะทำความสะอาดบ้าน หรือ อาจจะแค่เดินไปตามถนน แต่แล้วกลับต้องพบของบางสิ่งบางอย่างที่ดูน่าสนใจ แต่คุณไม่รู้ว่ามันคืออะไรหรือจะนำไปใช้ได้ยังไง ผู้คนหลายคนจากบทความของเราอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ และพวกเขาต้องการค้นหาว่าสิ่งที่พวกเขาพบนั้นคืออะไร ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากผู้คนทั่วโลก
พวกเราพบว่ามีชุมชนออนไลน์ที่ช่วยให้เรารู้วัตถุที่เราไม่รู้จัก มันมีวัตถุประสงค์ในการสร้างหรือ วิธีการใช้งานของสิ่งนั้นได้ยังไง และ ไม่น่าเชื่อที่เพื่อน ในโลกออนไลน์สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ทุกครั้งซะด้วย
17. “ไม้พวกนี้มีไว้ทำอะไร”
© OhMyG / Pikabu
คำตอบ: นี่คือ slicker (อุปกรณ์ขัดเงา) สำหรับหนัง นี่คือสิ่งที่ผู้ใช้ Pikabu กล่าวว่า...
18 ภาพน่าทึ่งสำหรับคนที่มักจะพูดว่า ” ฉันเคยเห็นทุกอย่างแล้ว”
ตั้งแต่มีสมาร์ทโฟนเกิดขึ้น เราก็จะคงเคยได้ยินคำพูดเกี่ยวกับเรื่องการบ่นว่ายุคนี้ผู้คนติดโซเชี่ยลมากเกินไป ซึ่งมันก็น่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่แย่ไปซะทั้งหมด เพราะสมาร์ทโฟนช่วยเราได้หลายอย่างอย่าง เช่น ทันทีที่คนเห็นสิ่งที่ไม่ปกติ พวกเขาก็จะหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายอย่างทันท่วงที ทำให้เราได้เห็นสิ่งแปลกๆใหม่ๆมากมาย และ บางครั้งมันก็เป็นสิ่งที่เราคิดไม่ถึงว่ามันจะมีอยู่จริงๆ
คนส่วนใหญ่จะตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นสิ่งแปลกใหม่ ดังนั้นเราจึงรวบรวมสิ่งที่เราเห็นแล้วรู้สึกว่ามันน่าจะสร้างความแปลกใจ และ เราก็อยากจะเห็นว่าคุณก็ประหลาดใจกับภาพที่เรารวบรวมมาเช่นเดียวกันเช่นกัน
1. ตัวตุ่นออสเตรเลียไม่เคยกลัวไฟ มันจะขุดหลุมลงไปในพื้นดินและซ่อนตัวอยู่อย่างนั้นจนไฟป่าได้ผ่านไป และนี้คือสถาพหลังจากมันกลับขึ้นมาบนพื้นดิน ถึงจะมอมแมมไปบ้าง แต่มันก็ไม่เป็นไร
© Echidna CSI / Facebook
2 “รถคันนี้ขับอยู่ในเมืองแต่มันถูกปกปิดเอาไว้อย่างมิดชิด จนฉันอดคิดไม่ได้ว่ามันอาจจะเป็นรถต้นแบบที่กำลังจะเปิดตัวในปีนี้ก็ได้”
© purpleeliz...
13 เรื่องราวในญี่ปุ่นที่ชาวต่างชาติอย่างเราไม่มีทางเข้าใจ
ถ้าจะบอกว่าสิ่งที่ทำให้ประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นที่หมายปองหรือเป็นจุดหมายของเหล่าบรรดานักท่องเที่ยวแล้วละก็ สิ่งนั้นก็น่าจะเป็นคามสวยงามและเอกลักษณ์ที่น่าหลงไหลที่สร้างความประทับใจให้กับเหล่าบรรดาผู้มาเยือนนั้นเอง และว่ากันว่าชาวญี่ปุ่นมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร และมีเรื่องราวมากมายที่พูดถึงเกี่ยวกับพวกเขา ถ้าคุณไปเที่ยวแดนอาทิตย์อุทัย คุณก็ต้องเตรียมพร้อมที่จะยอมรับระเบียบปฏิบัติในท้องถิ่นของพวกเขา ตัวอย่างเช่นอย่าวางแผนที่จะไปเยี่ยมใคร ๆ ในฐานะแขก ห้ามนำถังขยะจากด้านนอกกลับเข้าไปในบ้าน หรือแม้กระทั้งอย่าสั่งน้ำมูกในที่สาธารณะ และไม่มีประโยชน์ที่จะบอกใครๆว่าคุณกินมังสวิรัติ เพราะพวกเขาจะให้เนื้อคุณอยู่ดี
เราได้เปรียบเทียบวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นกับชาติอื่นๆ และดูเหมือนว่ามันมีความแตกต่าง กันอยู่หลายจุดเลยทีเดียวแราลองไปดูข้อมูลเหล่านี้กันเลยดีกว่า
เทรนด์ผมสีดำเข้มแบบธรรมชาติกำลังมาแรง
© AFP / East News © FaceToFace / REPORTER /...
“จุดเริ่มต้นจากถุงพลาสติก! ใบเดียว” ผู้หญิงคือนักสืบที่เก่งที่สุดในชีวิตจริง
ถ้าให้เรานิยาทความหมายของความรักละก็คงต้องบอกว่ามันคือสิ่งสวยงามที่ทำให้เรามีความสุข และสิ่งที่สำคัญที่สุดในการอยู่กับใครสักคนก็คือ ความซื่อสัตย์ แต่หากความซื่อสัตย์นั้นหมดไปแล้ว เราจะเลือกอะไร ระหว่างการให้อภัย หรือจะฟ้องร้องเพื่อแยกทางกันในทันที มันไม่ง่ายเลยที่จะตอบคำถามนี้ในเมื่อคุณกับคนรักของคุณอยู่ด้วยกันมานานถึง 15 ปี มีชีวิตที่ลงตัว และมีลูกด้วยกันอีกด้วย และนี่เองคือเหตุผลว่าทำไมคู่สมรสบางคู่จึงเลือกทางอื่นเมื่อพวกเขามองเห็นสัญญาณของการนอกใจ แต่ไม่ใช่กับนางเอกในเรื่องนี้ของเราที่มีความสามารถอย่างกับ Sherlock Holmes
โดยเราพบเรื่องราวนี้จากผู้ใช้ที่ชื่อว่า Pikaby หรือมีชื่อที่แสดงในกลุ่มว่า Infinity222 โดยเธอได้แบ่งปันเรื่องราวของเพื่อนของเธอที่เอาต้องบอกว่าจัดการสามีได้แบบอยู่หมัดเลยก็ว่าได้ และเมื่อได้อ่านเรื่องราวแล้วก็ต้องบอกเลยว่าพวกเราเชื่อว่าความฉลาดของเธอควรเป็นที่จดจำและบอกต่อ
เรื่องราวเริ่มต้นจากเมื่อเธอไปช็อปปิ้งในวันคริสต์มาสและพบเพื่อนคนหนึ่งที่ฉันไม่ได้เจอมานานเป็นเวลา 6 เดือน
ฉัน: อ้าว...
ไม่ได้มูนะ! แต่เวลาเกิดของคุณมันมีผลกับการเป็นคนตื่นเช้า หรือเป็นคนนอนดึกด้วยนะเออ
ถ้าจะบอกให้ขยันละก็เพื่อนเพื่อนน่าจะต้องเคยได้ยินมาว่านกที่ตื่นเช้าคือนกที่ได้หนอนตัวใหญ่ไปใช่ไหมละ แต่เพื่อนหลายคนอาจจะติดตลกบอกต่อไปว่าแต่หนอนที่ตื่นเช้าจะถูกนกจับไปซะงั้น แล้วจะให้ทำไงกับการตื่นเช้าดีนะ แต่ประเด็นของวันนี้ไม่ได้อยู่ที่จุดนั้นแต่เป็นที่ว่าการที่เราจะตอนตื่นเช้าหรือมีนิสัยที่ไม่ค่อยง่วงนอนในตอนดึกๆ นั้น มันอาจจะไม่ได้มาจากความชอบหรือความขยันอย่างเดียวซะแล้ว เพราะมีการไปศึกษาอย่างเป็นเรื่องราวเลยนะว่าการที่เราจะมีการนอนหรือการตื่นกลางคืนอย่างกัยนกฮูกตอนกลางคืน นั้นสไตล์การใช้ชีวิตที่แตกต่างกันและมีนิสัยที่แตกต่างกันเหล่านี้มันอาจจะมีหลายส่วนประกอบ ซึ่งนั้นก็เป็นไปตามพฤติกรรมและการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ แต่ยิ่งกว่านั้นหลังจากมีการต่อยอดการศึกษาลงไปอีกเรายังพบว่าช่วงเวลาที่คุณเกิดจริงๆอาจอธิบายตัวตนของคุณได้มากขึ้นด้วย
พวกเราตัดสินใจที่จะอธิบายว่าทำไมบางคนถึงตื่นขึ้นมาอย่างง่ายดายในตอนเช้าและเราพบข้อเท็จจริงที่น่าสนใจบางอย่างที่อาจช่วยคุณอธิบายได้ว่าทำไมเวลาที่ดีที่สุดของคุณคือหลัง 18.00 น.
คนที่เกิดในตอนเช้าทำคะแนนในการทดสอบตอนเช้าได้ดีกว่า
© 0000001/Reporter
ข้อสรุปนี้ทำโดยนักจิตวิทยาที่ทดสอบนักเรียนกลุ่มใหญ่ คนที่เกิดในช่วงเย็นจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในช่วงเย็นและซึ่งเป็นคู่ขนานกันกับคนที่ตื่นเช้า
© Wiese / FaceToFace / REPORTER
เวลาเกิดของคุณอาจตั้งนาฬิกาชีวภาพให้กับคุณ ธรรมชาติและคุณภาพของแสงที่คุณเห็นเมื่อคุณเกิดมีอิทธิพลต่อทั้งชีวิตของคุณ ถ้าคุณเกิดในตอนกลางคืน เมื่อไม่มีแสงสว่างนี่เป็นช่วงเวลาเริ่มต้นของกิจกรรมของคุณ ดังนั้นคุณจึงถูกโปรแกรมไว้แบบนี้
คนที่เกิดก่อนกำหนดจะได้รับอิทธิพลจากช่วงเวลาของการเกิดอย่างเต็มที่
©...
4 เรื่องเล่าแฟชั่นแนวแนวจากอดีตที่เลือนหายไป
อย่างที่เราได้เคยบอกเล่าให้เพื่อนๆได้ฟังกันไปแล้วในหลายหลายครั้ง เกี่ยวกับเรื่องราวของแฟชั่นการแต่งตัวหรือการทำอะไรซักอย่างเพื่อให้เราดูดีขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องเรียกว่าเป็นความชอบใจของคนส่วนมากในแต่ละยุคหรือในแต่ละช่วงเวลาซึ่งตอนนั้นทุกคนล้วนเห็นดีและคิดว่ามันเยี่ยมจริง ๆ แต่ก็มีแฟชั่นบางอย่างที่บางครั้งเมื่อเราได้ลองมองย้อนกลับไปก็อาจจะเห็นเป็นสิ่งตรงข้ามกันก็ได้
วันนี้พวกเรา BTW ก็เลยอยากจะนำเรื่องราวของแฟนชั่นในอดีตที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับความนิยมชมชอบ แต่ในความเป็นแฟชั่นเหล่านั้นมันไม่ได้มาง่ายๆเลยเพราะกว่าที่จะทำสิ่งเหล่านี้ได้มันต้องผ่านหลายหลายสิ่งหลายหลายอย่าง เรียกได้ว่าต้องยอมทุ่มเทจริงๆเลยก็ว่าได้
สิ่งแรกเลยกับการทำคิ้วให้มีหลากสีสัน
ฟังดูแล้วก็คงจะเป็นเรื่องธรรมดาพื้นๆอย่างมากสำหรับพวกเราในตอนนี้ นั่นก็เพราะว่าเราในยุคนี้สามารถเปลี่ยนแปลงสีผมหรือสีคิวของเราได้ตามที่ต้องการง่ายง่ายเพียงแค่ใช้ผลิตภัณฑ์บางอย่างเท่านั้น แต่ถ้าหากเพื่อนเพื่อนลองคิดดูว่าเราย้อนกลับไปในอดีตซึ่งไม่มีสิ่งเหล่านี้การที่จะเปลี่ยนสีคิ้วให้มีหลากสีตามความต้องการนั้นมันเป็นเรื่องยากมาก ซึ่งคนยุคนั้นส่วนใหญ่หากต้องการทำสีคิ้วก็ต้องลงทุนโกนคิ้วออก และใช้หมึกหรือสีทาหรือวาดให้เป็นรูปคิ้วแทนซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้มันต้องใช้เงินมากจำนวนหนึ่งเลยในการมองหาสีที่สวยงามทั้งยังต้องสามารถวาดลงบนใบหน้าได้อีกและมันยังต้องติดทนทาน ยังไม่นับว่าจะต้องทำสิ่งนี้ให้ทุกๆวันอีกด้วยและนี้คือแฟชั่นจริงๆที่เคยได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มของผู้มีฐานะของจีนเมื่อนานมาแล้ว
ยุคเรเนสซองส์ยุคที่เค้านิยมทำหน้าผากสูง
ในยุคโบราณอย่างยุคเรเนสซองส์นั้นมีการพยายามสร้างตัวตน เพื่อบอกถึงฐานะของตนเองโดยคนที่มีฐานะมากกว่าจะแต่งเติมทั้งรูปลักษณ์ภายนอกการแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่มีเอกลักษณ์ รวมไปถึงการแต่งหน้าด้วยดังนั้นเราจึงเห็นได้ว่าเหล่าคนชั้นนำในยุคนี้มีการใช้เครื่องสำอางจำนวนมาก และยังแฟชั่นอย่างหนึ่งนั่นก็คือการทำใบหน้าให้ดูเกลี้ยงเกลาโดยการโกนหรือถอนไรผมรวมทั้งขนตาและคิ้วอีกด้วยคงไม่ต้องบอกละนะว่าตอนนี้ทำไมถึงไม่มีใครทำตามนั้นก็เพราะมันต้องเจ็บอย่างแน่นอนเมื่อต้องทำสิ่งเหล่านี้ทุกวัน
การไว้เล็บให้ยาว
เรื่องทำเล็บหรือไว้เล็บนั้นตอนนี้ก็ยังตงเห็นสาวๆหลายคนทำกันอยู่อย่างแพร่หลายเลยแต่สิ่่งที่เราได้ไปอ่านพบมานั้นเป็นเรื่องของจีนในยุคเก่าเลยซึ่งถ้าเราได้ชมละครทีวีย้อนยุคก็จะยังพอเห็นได้ว่านางในหลายหลายคนนั้นจะมีปลอกเล็บที่นิ้วก้อยและนิ้วนาง โดยสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเธอคือคนที่มีฐานะและมีความสบายอย่างมากเพราะที่สามารถไปมีเล็บที่ยาวได้นั้นก็เนื่องมาจากว่าไม่ต้องลงมือทำงานอะไรเลยนั้นเอง
ใครใครก็อยากจะดูสูงดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ยุคก่อนก็มีรองเท้ายกพื้นสูง(มาก)
ซึ่งตอนนี้เราเองก็อาจจะยังหารองเท้าที่เสริมพื้นให้สูงขึ้นได้ไม่ยากนัก แต่หากจะหารองเท้าหรือคนที่ใส่รองเท้าที่ยกพื้นสูงมากๆอย่างในอดีตคงเป็นไปได้ยากเพราะรองเท้ายกพื้นสูงที่เราพูดถึงนั้นมีความสูงถึงห้าสิบถึงเจ็ดสิบเซ็นติเมตรกันเลยทีเดียว อันที่จริงในตอนแรกรองเท้าพื้นสูงนั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในจุดประสงค์ของการเดินลุยโคลนหรือแหล่งน้ำเท่านั้นแต่กลับมานักแฟชั่นในยุคนั้นไปเพิ่มรายละเอียดและลูกเล่นให้ดูสวยงามเลยกลายเป็นแฟนชั่นที่นิยมขึ้นมาในช่วงเวลาหนึ่งแต่เนื่องจากมันเดินยากมากมากเลยค่อยๆหมดความนิยมไปแต่ยังคงเหลือเป็นรองเท้าส้นสูงแบบในปัจจุบันนั้นเอง
ยังมีแฟชั่นแปลกๆอีกหลายอย่างที่มีขึ้นและเลื่อนหายไปตามกาลเวลาแต่ก็ยังมีอีกแฟชั่นอีกมากมายที่หวนหลับมาอีกครั้งแล้วแฟชั่นแบบไหนกันละที่เพื่อนพื่อนยังชอบและอยากให้มันหวนกลับมาอีกคุณสามารถส่งมาบอกพวกเรา BTW ได้เลยนะ
เรียบเรียงโดย BTW